Support
www.siamsylphshop.com
098-4043885
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
guest

Post : 2012-02-14 10:21:07.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ไวน์ป้องกันโรคสมองเสื่อม

 

ไวน์ ป้องกันโรคสมองเสื่อม

 

ใครที่ชอบดื่มไวน์ รู้หรือไม่ว่า ไวน์สามารถป้องกันโรคสมองเสื่อมได้

จากการวิจัย พบว่า

การดื่มไวน์วันละครึ่งแก้ว สามารถช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมอย่าง อัลไซเมอร์ และ พาร์คินสัน ได้

คณะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิลานในอิตาลี พบว่า

สาร รีเซอร์เวทรอล ในองุ่นและไวน์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเอนไซม์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นการสร้างเซลล์สมอง

ดร.อัลเบอร์โต เบอร์เทลลี หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า

รีเซอร์เวทรอล ยังช่วยเซลล์สมองสร้างส่วนขยายของเซลล์ ซึ่งอาจจะทำให้มันสามารถเชื่อมต่อกับเซลล์ข้างเคียงได้อีกด้วย

กิจกรรมดังกล่าวของเซลล์สมองจะช่วยฟื้นฟูสมองของคนชรา ทำให้สามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้

ถ้าจะดื่มไวน์ป้องกันโรคสมองเสื่อม ต้องดื่มวันละน้อย อย่าดื่มมากจนเกินไป เพราะอาจจะเปลี่ยนจากผลดีเป็นผลเสียได้.

guest

Post : 2012-02-10 11:56:14.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  น้ำเพื่อสุขภาพ

 

น้ำ เพื่อสุขภาพ

 

ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 75% ของน้ำหนักตัว เราอาจจะอดอาหารได้เป็นเดือน ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้เกินกว่า 3-7 วัน การดื่มน้ำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติ และมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกัน การขับถ่ายของเสียก็ทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น มีเลือดฝาด และไม่ปวดหลังหรือบั้นเอว เพราะสุขภาพไตแข็งแรง

หลักการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด สามารถทำง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยน้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือ น้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ถ้าเป็นน้ำอุ่น ควรดื่มตอนเช้า เพื่อช่วยล้างลำไส้ให้สะอาด และช่วยการขับถ่ายของเสีย

ในแต่ละวัน เราควรดื่มน้ำทั้งหมด 10 แก้ว โดยตื่นนอนตอนเช้าดื่ม 1 แก้ว ตอนสายดื่มอีก 2 แก้ว ตอนบ่ายและตอนเย็นดื่มครั้งละ 3 แก้ว และก่อนเข้านอนดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบายขึ้น นอกเหนือจากน้ำเปล่าแล้ว คุณ ๆ สามารถดื่มน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ไม่จำกัด

ข้อควรจำคือ ไม่ควรดื่มน้ำก่อนและหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในแต่ละมื้อไม่ควรรับประทานอาหารให้แน่นจนเกินไป ควรทานแค่อิ่มพอดี แล้วรับประทานผลไม้สดเพื่อล้างคอ ก่อนจะจิบน้ำตามนิดหน่อย รับรองสบายท้อง ส่วนการรับประทานอาหารพร้อมกับดื่มน้ำตลอดเวลา เป็นนิสัยที่ควรเลิก ทางที่ดีควรซดน้ำแกงกลั้วคอจะเวิร์กกว่า

guest

Post : 2012-02-09 11:40:11.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เรื่องที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับผิวหนัง

 

เรื่องที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับผิวหนัง

 

1. ช็อกโกแลตไม่ได้เป็นสาเหตุของสิว  ถ้าคุณคิดว่าอาหารไขมันสูงอย่างพิซซ่า  มันฝรั่งทอด  และช็อกโกแลต  จะไปอุดตันรูขุมขน  ความจริงก็คือสิวเกิดขึ้นในชั้นที่ลึกลงไปในผิว  แบคทีเรียต่างหากที่เป็นต้นเหตุผิวเสีย

 2. ดื่มนมทำให้เกิดสิว  ฮอร์โมนและชีวโมเลกุลในนมกระตุ้นต่อมไขมันจนทำให้เกิดสิวได้  หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป

3. ควรใช้ยารักษาสิวทั่วหน้า  ไม่ใช่ทาเฉพาะหัวสิว  เพราะยาจะไปทำลายแบคทีเรียสาเหตุของสิว  จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่  รวมทั้งรักษาพร้อมๆกันไปด้วย

4.  ปิดผ้าพันแผล  จะช่วยฟื้นสุขภาพผิวดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเมื่อเกิดแผลหรือรอยถลอกบนผิว  เรามักจะปิดแผลไว้แค่ 1-2 วัน  แล้วหลังจากนั้นก็เปิดทิ้งเพราะเชื่อว่าจะทำให้แผลแห้งไว  ที่จริงแล้วพบว่าแผลจะสมานได้เร็วกว่าหากอยู่ในสภาพที่มีความชื้นพอประมาณ ปิดแผลไว้ตลอดจึงดีกว่า

5.  ไม่ควรทานวิตามินอีหากเป็นแผล  วิตามินอีเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นดี  แต่หากคุณเกิดบาดแผล  วิตามินอีกลับจะไปขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอตามธรรมชาติรอให้แผลทุเลาหน่อยจึงดีกว่า

guest
จุ๊บ
- Guest -

Post : 2012-02-06 15:20:20.0     Forum: สอบถาม  >  กิน ซิลฟ์ มาได้ 1 อาทิตย์ค่ะ

หวัดดี่ค่ะ  ซื้อ ซิลฟ์ จากรายการทีวี ช่วง หมออ้อย โฆษณา ตัวนี้ค่ะ

ต้องบอกก่อนว่า น้ำหนัก 67 สูง 167

ถ้า ทานประจำ ระบบขับถ่าย จะเสียมั้ยค่ะ และจะมีการดื้อยามั้ยโดยต้องเพิ่มปริมาณเพราะเมื่อก่อน เคยทานยาถ่าย โมดูเล็ค ค่ะ แล้วเลิก ร่างกายกว่าจะปรับเข้าที่ให้ถ่ายเป็นปกติ นาน เป็นปีเลย

ตอนนี้กิน ซิลฟ์ มา 1 อาทิตย์  ทานก่อนนอนวันละ  2 เม็ด

ท้องยังไม่ลง เลย ตัว+แขน ยังไม่ลดเลยค่ะ 

ซื้อ ซิลฟ์ ช่วงโปรโมทชั่น 3 กล่อง  อยากรู้ว่าจะต้องกินกี่กล่อง

 

ถึงจะ เริ่มรู้ว่า ตัวเล็กลงค่ะ

 

guest

Post : 2012-02-03 11:16:24.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ผักรักษาโรค

 

ผักรักษาโรค

 

ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง คือ อาหารในแต่ละวันร่างกายต้องการอาหารครบ 5 หมู่ อาหารแต่ละชนิดให้คุณค่าแตกต่างกันไป อาหารพวก "ผัก" ไม่เพียงแต่รับประทานแล้วอร่อยและอิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางยาแอบแฝงอยู่อีกด้วย

ในผักมีอะไร

ผักเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากชนิดหนึ่ง เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น เกลือแร่ วิตามิน อยู่เป็นจำนวนมาก สารบางอย่างจะมีเฉพาะในผักเท่านั้น สิ่งสำคัญที่พบมากในผักทุกชนิดคือ "ใยพืช" (Fiber) ซึ่งเป็นส่วนที่ย่อยไม่ได้และไม่ให้พลังงาน นอกจากมีมากในผักแล้วยังพบได้ในถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ข้าวซ้อมมือ ข้าวแดง เป็นต้น

ใยพืชมีประโยชน์อย่างไร

1. ให้พลังงานน้อย 2. ลดอัตราการดูดซึมของน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลภายหลังอาหารลดลง 3. ช่วยลดการดูดซึมไขมัน 4. กระตุ้นลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ท้องไม่ผูก ป้องกันโรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้ เป็นต้น

มากินผักกันเถอะ

การรับประทานผักจำนวนมาก ๆ หลายชนิดเป็นประจำ นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงและเจริญเติบโตแล้ว ยังสามารถป้องกันโรคบางชนิดได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

เห็ดหอม

เป็นเห็ดมีขายกันในรูปเห็ดตากแห้ง เห็ดหอมมีรสหวาน มีกลิ่นหอม สารเคมีที่พบมีเส้นใย ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและวิตามินบี มีการทดลองพบว่าเห็ดหอมมีฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอลในเลือด ถ้ารับประทานเห็ดหอมเป็นยาบำรุงกำลังช่วยย่อย ลดอาการเบื่ออาหาร

งา

มีกลิ่นหอม มีน้ำมันมาก มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรด วิตามินบี 1, บี 2, วิตามินอี และเกลือแร่หลายชนิด สรรพคุณบำรุงกำลัง แก้ท้องผูก ผมหงอกก่อนวัย ลดโคเลสเตอรอลในเลือด และเสริมภูมิต้านทานโรค ถ้ารับประทานเป็นประจำ ข้อระวังผู้มีท้องร่วงเรื้อรัง ไม่ควรรับประทาน

ถั่ว

  ได้แก่ ถั่วลันเตา ถั่วแขก มีสารอาหารที่สำคัญคือ โปรตีน ไขมัน และเกลือแร่หลายชนิด มีคุณค่าอาหารครบถ้วน มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำได้

ขี้เหล็ก ใช้ใบรับประทาน ใบขี้เหล็กมีวิตามินเอ วิตามินซี เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 และไนอาซิน สรรพคุณทางยาของใบขี้เหล็กมีสารชนิดหนึ่งออกฤทธิ์ต่อประสาททำให้นอนหลับดี แก้ท้องผูกได้ดี และบำรุงร่างกาย

ตำลึง เป็นไม้เถา ใช้ใบรับประทาน เป็นพืชมีคุณค่าสูงทั้งวิตามินเอ แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก ยังมีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรด ฟอสฟอรัส เหล็ก เหมาะเป็นอาหารบำรุง นอกจากนี้ตำลึงยังมีคุณสมบัติแก้แพ้ได้ดี โดยนำใบมาพอกบริเวณโดนสัตว์กัดต่อย

มะระ

เป็นผักจำพวกแตง มีรสขม เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย มีการทดลองกินมะระลดน้ำตาลในเลือดได้ (ส่วนเม็ดมะระจีนแก่จัดตากแห้งแกะเปลือกนอกออก นำมาบดให้ละเอียด ละลายน้ำร้อนกินวันละครั้งก่อนนอน จะแก้อาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และกระตุ้นความรู้สึกทางเพศได้)

ผักกาด

ผักกาดมี 3 ชนิด ผักกาดขาว ผักกาดเขียว และผักกาดหอม ต่างมีสารอาหารเกลือแร่วิตามินครบบริบูรณ์ และมีเส้นใยอยู่จำนวนมาก การรับประทานเป็นประจำจะป้องกันอาการท้องผูก ลดการเป็นมะเร็งลำไส้ ส่วนผักกาดหอมสามารถป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และวิตามินซีที่มีอยู่ในผักจะสร้างเสริมภูมิต้านทานโรค

มะเขือยาว

มะเขือมีอยู่ 3 ชนิด เปลือกสีเขียว สีม่วง และสีขาว พบว่าเปลือกสีม่วงและสีขาวมีคุณภาพดีกว่าสีเขียว ในมะเขือมีวิตามินบี 1 จำนวนมาก ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของสมอง ช่วยความจำ ลดอาการอ่อนเปลี้ยของสมอง ในมะเขือยาวนี้มีโปรตีน แคลเซียม และวิตามินมากกว่ามะเขือเทศ การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้เส้นเลือดไม่เปราะ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคลักปิดลักเปิด

ปวยเล้ง

เป็นผักที่มีสีเขียวเข้มมีเส้นใย เกลือแร่ วิตามินซีจำนวนมาก และยังพบว่ามีกรดออกซาลิกอยู่มากเช่นกัน ซึ่งกรดนี้ถ้ารวมตัวกับแคลเซียมจะทำให้เกิดนิ่วได้ ก่อนบริโภค ควรลวกผักปวยเล้งให้สุกก่อนแล้วเทน้ำทิ้งไป จึงนำผักมาปรุงอาหารได้ ทำเช่นนี้กำจัดกรดออกซาลิกออกไป ปวยเล้งถ้ารับประทานเป็นประจำ จะยับยั้งการดำเนินของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานอีกด้วย

แค

รับประทานดอกมีชนิดสีแดงและสีขาว มีสรรพคุณลดไข้ ส่วนใบแครับประทานเป็นยาระบายได้

หัวปลี

เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย ใบหัวปลีมีธาตุเหล็ก จึงบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง และยังคงลดน้ำตาลในเลือด และแก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ การนำมาปรุงอาหารได้แก่ ยำหัวปลี หรือรับประทานสดก็ได้

เกร็ดเล็กน้อยในการปรุงอาหารผักให้ได้คุณค่า

1. การหั่นผักแล้วล้าง น้ำจะทำให้วิตามินซีในผักสูญเสียไป เพราะวิตามินซีสลายตัวได้ง่ายในน้ำ ดังนั้นจะต้องล้างผักก่อนแล้วจึงหั่น และเมื่อหั่นเสร็จแล้ว ควรปรุงทันที

2. หลังปรุงแล้วควรรับประทานทันที เพราะการทำทิ้งไว้นาน ๆ หลังปรุง จะทำให้สิ่งมีคุณค่าทางอาหารสูญเสียไปได้

3. วิธีการหุงต้มผักทุกชนิดล้วนมีผลต่อการสูญเสียวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีละลายน้ำได้ ดังนั้นการรับประทานผักต้ม จะต้องรับประทานน้ำแกงด้วย การต้มควรจะต้มในน้ำน้อย ๆ และใช้เวลาสั้น ๆ

4. การปรุงอาหารจำพวกผัก ถ้าเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร และรักษาวิตามินซีไว้ด้วย

5. เครื่องครัวที่ใช้ผัดหรือต้มผัก ควรเป็นพวกเหล็ก เพราะจะทำให้วิตามินสูญเสียน้อยกว่าพวกทองแดง

 

guest

Post : 2012-02-02 09:19:19.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ที่ทำงานกำลังทำให้คุณอ้วนอยู่รึเปล่านะ

ที่ทำงานกำลังทำให้คุณอ้วนอยู่รึเปล่านะ

 


โถใส่บิสกิตประจำออฟฟิศคุณมีแต่รอยนิ้วมือเปรอะเปื้อนไปหมดรึเปล่า แล้วพอบ่ายสามโมง คุณก็กระเด้งจากเก้าอี้โดย อัตโนมัติแล้วไปซื้อของว่างใช่มั้ย จากผลสำรวจในออสเตรเลีย คนทำงานกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ต่างบอกว่าความเครียดจากการ ทำงานทำให้พวกเขาห่างไกลจากอาหารสุขภาพ เราจึงต้องหาวิธีรับมือที่ต่อให้งานหนักแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้คุณไขว้เขว จากการไดเอ็ตได้

    1. อาหารโฮมเมด

          ทำอาหารสุขภาพไปกินที่ออฟฟิศ หรือหากไม่มีเวลาทำก็ซื้อสลัดไปกินเป็นมื้อเที่ยงสิ หรือซื้อแช่ตู้เย็นตุนไว้ หากอยาก เพิ่มโปรตีนก็ให้เติมไข่ต้มเนื้อไก่ฉีก หรือปลาทูน่าลงไปด้วย อาหารที่เตรียมง่าย ๆ ก็ทำให้สุขภาพดีและหุ่นสวยได้

    2. โปรตีนคือเพื่อนของคุณ

         ไม่กินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไปในมื้อกลางวัน เพราะคาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ และนั่นเป็นต้น ตอของความหิวในตอนบ่ายที่ทำให้คุณวิ่งไปหาโหลบิสกิตในที่สุด โปรตีนจะไปช่วยระงับให้น้ำตาลเดินทางไปยังกระแสเลือด ได้ช้าลง จึงควบคุมไม่ให้น้ำตาลในเลือดไปทำให้คุณรู้สึกโหยหาของกินอีกในยามบ่าย เมื่อคุณหิวน้อยลงก็มีโอกาสต่ำลงที่จะ เลือกของว่างซึ่งมีน้ำตาลสูงมากิน

    3. อย่างดมื้อเช้าในยามเร่งรีบ

         เรารู้ว่าตอนเช้าคุณรีบมาก แต่จำไว้ว่าคนที่ไม่กินอาหารเช้ามักจะกินของว่างจุกจิกในช่วงก่อนเที่ยง หรือกินมากเกิน อัตราในมื้อกลางวัน หากคุณรีบมากให้ชงเครื่องโปรตีนกับกล้วยปั่นไปดื่มระหว่างเดินทาง หรือแวะซื้ออาหารเช้าง่าย ๆ ไปกินก็ได้

    4. นอนหลับให้เต็มอิ่ม

         อย่าประเมินคุณค่าของการนอนหลับสนิทในตอนกลางคืนต่ำไปเชียวนะ เมื่อคุณนอนไม่เพียงพอ เรื่องราวสารพัดที่ต้อง เจอในยามเช้า ก็จะทำให้คุณเหนื่อยและพุ่งไปหาของกิน โดยที่คุณอาจจะยังไม่ทันหิวเลยด้วยซ้ำ

    5. อย่าเผลอใจไปกับตัณหา

        ในที่นี้เราหมายถึงอาหารนะ คนเรามักติดกับดักเพราะอาหารขยะ แล้วก็ยากที่จะทำใจไม่ให้ซื้อได้ เรามักคิดว่าลูกกวาด และช็อกโกแลตที่เราซื้อนั้นมีไวเผื่อยามฉุกเฉินเท่านั้น ทางที่ดีเลิกซื้อของหวานจุกจิกพวกนี้ซะ แล้วซื้อของขบเคี้ยวที่มี ประโยชน์มาประจำโต๊ะไว้คลายหิวดีกว่า

    6. เตรียมตัวให้ดี

        หากคุณต้องอยู่ทำงานจนดึก อย่ารอให้ตัวเองรู้สึกหิวจัดในตอนหนึ่งทุ่มแล้วค่อยคิดถึงอาหารเย็นล่ะ เมื่อความหิวโจมตี คุณมักรู้สึกอยากกินอาหารที่มีแคลอรีสูง เตรียมตัวสำหรับการทำงานหามรุ่งหามค่ำให้ดี ด้วยการแอบออกไปซื้ออาหารเย็น เตรียมเอาไว้

    7. กาแฟที่ดื่มปลอดภัยแค่ไหนกัน

        เมื่อพูดถึงเครื่องดื่ม ในวันหนึ่ง ๆ คุณดื่มกาแฟกี่แก้ว ลาเต้และคาปูชิโน่นั้นให้แคลอรี 224 แคลอรี นี่ยังไม่รวมน้ำตาลนะ ควรจำกัดปริมาณไม่ให้ดื่มกาแฟเกินวันละหนึ่งแก้ว และเลือกแบบปลอดครีมซึ่งจะได้แคลอรีลดลง 75 เปอร์เซ็นต์จากกาแฟที่ ใส่ครีม

    8. เข้าประชุมก็ยัง (ไม่เลิก) กิน

        หากคุณรู้ว่าจะต้องเข้าประชุม โดยที่มีของว่างหวาน ๆ แคลอรีสูงวางล่อใจอยู่ ก็คว้าแอปเปิ้ล หรือของว่างจำพวกธัญพืช เข้าไปแทนดีกว่านะ

    9. เครื่องดื่มก็นับแคลอรีได้นะจ๊ะ

         อย่าคิดว่าเครื่องดื่มจะทำให้คุณอ้วนน้อยกว่าอาหารในเครื่องดื่มก็มีแคลอรีสูงได้ ชาเย็นและโกโก้นั้นถือว่าต้องห้ามเลย แม้แต่น้ำผลไม้ก็ยังมีน้ำตาลเช่นกัน และยังไม่มีไฟเบอร์เหลือที่จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้นได้ เมื่อคุณกระหายน้ำ น้ำเปล่า คือ เพื่อนที่ดีที่สุด ทั้งปลอดแคลอรีแล้วยังเป็นการประหยัดไปด้วยในตัว

    10. กลเม็ดเก่า ๆ แต่เก๋านะ

         เรามักจะกินอาหารหมดอย่างรวดเร็วระหว่างที่ตายังจ้องหน้าจอคอมพ์ โดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคุณกำลังกินอะไรอยู่ พยายามใช้เวลาสัก 10 นาที (แม้จะยังนั่งที่โต๊ะ) ไม่คิดถึงอะไรนอกจากอาหารที่กินอยู่ เมื่อคุณกินอาหารอย่างรีบเร่ง ตัว สัญญาณที่ต้องทำหน้าที่ส่งความรู้สึกว่าคุณอิ่มแล้วนั้นจะไปถึงสมองได้ไม่เร็วพอ แล้วนั่นก็ทำให้คุณพลั้งเผลอกินมากเกินไปจน จุก

     Tip   อย่าคิดว่าสแน็กบาร์และสมูธตี้ผลไม้ทั้งหมดจะให้แคลอรีต่ำนะ เพราะหากมีน้ำตาลปริมาณสูง ก็ยังเป็นภัยต่อความมั่น คงของหุ่นและน้ำหนักคุณอยู่ดีนั่นแหละ

guest

Post : 2012-02-01 14:20:41.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เคล็ดลับเล็บสวย

 

เคล็ดลับเล็บสวย

 

 

เล็บนุ่ม
คั้นน้ำมะนาวสดสัก 1 ลูก แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะนาวที่ได้  ทาให้ทั่วเล็บมือและเท้า  ปล่อยทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วค่อยๆ ล้างออก ด้วยน้ำสบู่กับน้ำอุ่น  หากทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่ออาทิตย์ จะช่วยทำให้เล็บนุ่มและแข็งแรงขึ้น

เล็บแบน
ให้บีบตรงปลายนิ้วจนมีสีชมพู  ทำแบบนี้ประมาณ 5 นาทีทุกวัน  เพียงเท่านี้เล็บของคุณก็จะได้รูปโค้งสวยขึ้นได้

เทคนิคการตะไบเล็บ
เวลาตะไบเล็บให้ตะไบไปทางเดียว  จากด้านข้างเล็บเข้าด้านใน  อย่าตะไบแบบไร้ทิศทาง  เพราะแทนที่คุณจะมีเล็บสวยๆกลับยิ่งทำให้เล็บขรุขระมากขึ้น

เล็บสุขภาพดี
เคล็ดลับสุดท้ายที่สำคัญที่สุดของการมีเล็บสวย คือ การรับประทานอาหาร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารอาหารประเภทเหล็ก  แคลเซียม  วิตามินบี  และโพแทสเซียม เพราะที่สุดของเล็บสวยย่อมมาจากการบำรุงให้เล็บมีสุขภาพดีนั่นเอง

เล็บสีสวย
ไม่ต้องพึ่งพายาทาเล็บก็สวยได้  ใช้น้ำผลไม้ที่มีกลิ่นไม่รุนแรงจนเกินไป เช่น  น้ำส้ม  น้ำมะนาว  เทใส่ภาชนะนำเจลหรือโลชั่นบำรุงผิวผสมลงไปพอประมาณ แล้วคนให้เป้นเนื้อเดียวกัน  นำสำลีจุ่มให้ชุ่ม  แล้วทาให้ทั่วเล็บ  ทิ้งไว้ 5 นาที เล็บของคุณจะสวยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะน้ำผลไม้จะช่วยทำให้เล็บนั้นมีสีชมพูอ่อนและสะอาดขึ้น  ส่วนโลชั่นจะเพิ่มความนุ่มและความหอมให้เล็บ

 

guest

Post : 2012-01-31 12:32:17.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  การออกกำลังเวลาใดดีต่อสุขภาพ

 

การออกกำลังเวลาใดดีต่อสุขภาพ

   เราทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายนั้นจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี  แต่จริง ๆ แล้วการออกกำลังกายนั้นเราก็ควรที่จะเลือกเวลาให้เหมาะสมเพื่อที่จะได้สุขภาพที่ดี   เราลองมาดูกันเลยว่าควรจะออกกำลังเวลาใดจึงดีต่อสุขภาพ
     
      **ไม่ควรออกกำลังกายทันทีหลังกินอาหารอิ่มเต็มที่  อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมเหตุด้วยเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ  เพราะภายใน 2 ชม.  หลังจากการกินอาหารเข้าไปจะมีเลือดมารอรับอาหารที่ถูกย่อที่กระเพาะและลำไส้เป็นจำนวนมาก  ฉะนั้นถ้าออกกำลังกายหนัก ๆ ตอนนี้  เช่น  วิ่ง  จะต้องการเลือดมาเลี้ยงที่ขา 20 เท่าของสภาวะปกติ  ทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ  ก็อาจเป็นเหตุให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันถึงชีวิตได้
      **หลังจากผ่านไป 2 ชม. สามารถออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัย  เพราะอาหารถูกย่อยและดูดซึมหมดแล้ว  บรรดาเลือดที่มารออยู่ที่กระเพาะจะกระจายไปหมด

      **ไม่ควรออกกำลังกายทันทีหลังจากตื่นนอนตอนเช้าโดยไม่กินอะไรเลย  เพราะจะทำให้ตับต้องดึงสารอาหารที่อุตส่าห์ปรับเปลี่ยนไปเก็บไว้ในที่ต่าง ๆ ในขณะที่นอนหลับให้กลับเป็นพลังงานในเลือดใหม่  ทำให้ตับทำงานหนักมาก  อาจทรุดโทรมได้
      **ตอนเช้าควรออกกำลังกายเบา ๆ แค่ "เดิน" ก็เพียงพอแล้ว  โดยควรกินอาหารเบา ๆ รองท้องก่อน  เช่น  ขนมปังหรือแซนวิชสักชิ้นกับโอวัลติน 1 ถ้วย

      **ควรออกกำลังกายตอนเย็น  โดยไม่ต้องกินอาหารภายหลัง  (หลังออกกำลังกายเสร็จให้ค่อย ๆ จิบน้ำจนรู้สึกอิ่ม)  จะช่วยให้สารอาหารที่เหลือจากการกินมื้อเช้าและเที่ยงลดน้อยลง  ช่วยให้ตับไม่ต้องทำงานหนัก  เพื่อแปรสภาพสารอาหารไปเก็บไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำให้ไม่อ้วน

      เมื่อเราทราบอย่างนี้แล้ว เพื่อน ๆ ก็ควรที่จะเลือกเวลาออกกำลังให้เหมาะสม  เพื่อจะทำให้การออกกำลังกายนั้นเป็นผลดีต่อสุขภาพ 

guest

Post : 2012-01-30 12:13:00.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ผู้ชายกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม

 

ผู้ชายกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม

 

 

ผู้ชายผิวธรรมดา
สามารถทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียว และบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ชนิดโลชั่น หรือครีมเนื้อบางบาหรือเจล


ผู้ชายผิวมัน
ควร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ชนิดเจลจะเหมาะกว่าชนิดครีม และควรดูแลผิวด้วยการขัดผิวอาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้น โดยขัดนานๆ บริเวณดั้งจมูกและคางที่มีสิวเสี้ยน


ผู้ชายผิวแห้ง
ควร ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์หลังจากการล้างหน้า เช็ดพอหมาดๆ แล้วต้องทาครีมในขณะที่ผิวยังชุ่มชื้นอยู่เพื่อช่วยกักเก็บน้ำในผิว หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่แห้งเป็นพิเศษ ควรใช้โลชั่นที่มีเอเอชเอทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า นอกจากนี้อาจจะขัดผิวซักสองครั้งต่อเดือน และทาครีมกันแดดช่วย จะป้องกันการสูญเสียน้ำบนใบหน้าไม่ให้แห้งกร้าน


ผู้ชายผิวแพ้ง่าย
ควร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดที่ปราศจากกลิ่นและแอลกอฮอล์ที่เป็นเนื้อเจล จะให้ความอ่อนโยนกว่า และทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะ ภายนอกก่อนออกจากบ้านด้วยทุกครั้ง

 

guest

Post : 2012-01-27 11:49:31.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  วิธีสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี

 

วิธีสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี

 

 

บุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นปราการด่านแรกที่จะนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จที่คาดหวังไว้ มีวิธีการสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีมาแนะนำ

เริ่มจาก การมอง เพราะสายตาสามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกได้ เช่น ความรัก ความเกลียด ความโกรธ ความเคารพ หรือความเหยียดหยามดูหมิ่นดูแคลน ดังนั้น เวลามองผู้อื่นควรใช้สายตาที่แสดงถึงความสุภาพเรียบร้อย การเดิน ต้องใส่ความมั่นใจและสง่างาม คือเดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่ง ก้าวเท้ายาวพอประมาณและสอดคล้องกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่

ถัดมาคือ การแต่งกาย ที่บ่งบอกถึงการเอาใจใส่ตัวเอง เพราะการแต่งกายจะทำให้ดูดีหรือดูแย่ได้  ดังนั้นควรเลือกเครื่องแต่งกายเหมาะสมกับกาลเทศะ สะอาดเรียบร้อย

มาถึงหัวใจสำคัญ คือ การพูด การพูดต้องมีศิลปะ พูดเพื่อให้ชนะใจผู้ฟัง โดยคำพูดต้องสุภาพ มีเหตุผล น้ำเสียงไพเราะชวนฟัง และการใช้คำพูดควรเหมาะสมกับผู้ฟัง โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง

สุดท้ายที่ สุขภาพ คือ สุขภาพดี ไม่มีโรคภัย ร่างกายแข็งแรง เพราะคนป่วยออด ๆ แอด ๆ จะดูอ่อนแอ ไม่คล่องแคล่ว บางโรคส่งผลถึงความซีดเซียว ห่อเหี่ยวหม่นหมอง จนขาดสง่าราศรี ฉะนั้นการดูแลสุขภาพให้ดีคือต้นทุนของการพัฒนาบุคลิกภาพที่สำคัญ

guest

Post : 2012-01-26 15:36:09.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เคล็ดลับ 10 ประการกินอาหารเพื่อสุขภาพ

 

เคล็ดลับ 10 ประการกินอาหารเพื่อสุขภาพ


     ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทาน อาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่นห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก

    1. กินอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง

    2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี

    3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว

   4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

   5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ

    6. สร้างความคุ้นเคย กับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

   7. จัดน้ำชาให้ตัวเอง ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%

   8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบร็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย

   9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อยย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด

    10. กินถั่วให้เป็นนิสัย ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้

ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อตามคำแนะนำข้างต้นนี้ จนเป็นนิสัย สุขภาพดีๆ จะไปไหนเสีย !!

 

guest

Post : 2012-01-25 11:54:38.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >   อันตรายจากการกินของดอง


อันตรายจากการกินของดอง


ใครที่ชอบทานของดองเป็นประจำ ทราบหรือไม่ว่า การกินของดองก็ส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้เหมือนกัน วันนี้มีเรื่องนี้มาฝาก...

1. ปวดท้องน้อย จะปวดเวลาที่ใกล้จะมีประจำเดือนมากหรือช่วงมีประจำเดือน 1-2 วันแรกจะปวดมากผิดปกติ (ถึงกินยาแก้ปวดก็ไม่หาย หรืออาจจะทุเลาแค่นิดหน่อย)


2. มีตกขาวเยอะมากกว่าปกติ เวลากินของดองเสร็จแล้ว สักพักร่างกายจะขับตกขาวสีขุ่น ๆ ขาวหรือขุ่นเหลือง-เขียว ออกมาเยอะและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย


3. คันยิบ ๆ ตลอดที่จุดซ่อนเร้น เวลาที่มีตกขาวออกมาเยอะ (เนื่องจากตกขาวเกิดอาการอักเสบ) ถ้าหากว่ามีอาการเริ่มต้นนี้ แนะนำว่าควรไปตรวจที่แผนกสูติฯ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทันที

(ตรวจภายใน อุลตร้าซาวน์ ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตกขาว ช็อกโกแลตซีสต์) ถ้าอายุน้อย ควรตรวจตั้งแต่แรกจะดีมาก
 
(ถ้าบางคนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็บอกหมอได้) เพื่อป้องกันสุขภาพไว้ก่อน แต่ทางที่ดีควรจะงดกินของดองไปตลอด

รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่ากินของดองมากจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี

 

guest

Post : 2012-01-17 13:20:59.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  การทานอาหารสำหรับคนอยากหุ่นดี

 

การทานอาหารสำหรับคนอยากหุ่นดี

 

 

     ร้อยทั้งร้อยใครก็ต้องอยากมีรูปร่างที่ดีอย่างแน่นอน แต่จะทำอย่างไรนี่สิคะที่เป็นเรื่องยาก เพราะแค่จะใช้ชีวิตในแต่ละวันก็แสนจะวุ่นวายมากพออยู่แล้ว การทานอาหารก็ต้องรีบเร่งไม่ค่อยได้ใส่ใจ ทำให้หลายคนเจอกับปัญหาความอ้วนตามมา ส่วนคนที่ทานเท่าไรก็ไม่อ้วนก็เป็นที่น่าอิจฉากันไป แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไปอิจฉาตาร้อน คุณเธอเหล่านั้นเลย เพราะเรามีเคล็ดลับการทานที่จะทำให้คุณหุ่นดีได้ไม่ยาก ไม่แพ้สาว ๆ คนไหนเลยมาฝากกัน


ขยันทานผลไม้

หัดตัวเองให้เป็นคนชอบทานผลไม้และทานให้มาก ๆ แต่ต้องเลือกดูผลไม้ที่ไม่หวานจนเกินไป ส่วนผลไม้ต้องห้ามก็คือ ทุเรียน เงาะ ขนุน ลำไย ละมุด เป็นต้น

ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ

การทานอาหารควรให้ความสำคัญกับอาหารมื้อหลักทั้ง 3 มื้อ คือเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งทานก่อน 6 โมงเย็น และหลังจากนั้นก็ไม่ควรทานอะไรอีก แต่ถ้าหากทนไม่ไหวก็ลองดื่มชาเขียวร้อนสักแก้วก็ช่วยให้หายอยากได้

ดื่มน้ำเป็นประจำ

การดื่มน้ำก็สำคัญ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยให้ได้วันละ 6-8 แก้ว

เคี้ยวช้า ๆ เข้าไว้

หัดตัวเองให้เป็นคนเคี้ยวอาหารให้นาน ๆ อย่างน้อย 10 ครั้งต่อหนึ่งคำ เพราะไม่งั้นแล้วขืนคุณเคี้ยวเร็ว จะทำให้คุณทานได้เยอะกว่าเดิมนะคะ

อย่าทานพร้อมทำกิจกรรมอื่น

ห้ามทานอาหารไปพร้อมกับทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การนั่งรถ เพราะจะทำให้คุณทานได้มากกว่าปกติ โดยไม่รู้ตัว แล้วความอ้วนก็จะตามมาเป็นเงาตามตัวคุณเลยทีเดียว

การดื่มนม

หากก่อนนอนคุณต้องดื่มนม ไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยว นมพร่องมันเนย ก็ควรดื่มก่อนนอน 4 ชั่วโมง

เบเกอร์รี่ได้ แต่น้อย

จริง ๆ แล้วถ้าอยากผอมก็ไม่ควรทาน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ทานได้สัปดาห์ละครั้ง เท่านั้น แล้วก็ไม่ใช่ว่ากินแบบเต็มอิ่มนะคะ แค่ชิ้นสองชิ้นพอ

เชื่อมั่นในตัวเอง

เลือกทานอาหารที่คุณเห็นว่ามีแคลอรีต่ำ ที่คุณเชื่อว่าเหมาะกับคุณ อย่าปล่อยให้เพื่อน ๆ ชักจูง หรือท้าทายจนคุณปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอาหารที่มีไขมันสูงได้

หนึ่งจานก็เพียงพอ

ถึงแม้ว่าคุณจะหิวมากแค่ไหนก็ตามให้สั่งอาหารมาทานก่อนหนึ่งจาน อย่าเพิ่งสั่งจานที่สอง เพราะแค่จานเดียวก็ทำให้คุณอิ่มได้ จำไว้เลยนะคะ หนึ่งจานต่อหนึ่งมื้อเท่านั้น

เน้นผักมากกว่าเนื้อสัตว์

เวลาที่จะทานอาหารให้สังเกตก่อนว่า มีผักในปริมาณแค่ไหน เนื้อสัตว์ก็เช่นกัน จากนั้นให้ทานผักก่อนแล้วตามด้วยเนื้อสัตว์ หรือทางที่ดีก็เขี่ยเนื้อสัตว์ออกไปเลย

เลี่ยงอาหารไขมันสูง

อาหารไขมันสูงอย่างแกงกะทิ หรือน้ำอัดลมทุกชนิด ควรงดทานไปเลยนะคะ เพราะถ้าทำได้จะทำให้ลดน้ำหนักลงได้ง่ายขึ้น

ชา กาแฟวันละหนึ่งถ้วย

ถ้าเป็นไปได้หากใครที่ชอบทานชา กาแฟ หรือโอวัลติน ควรทานแค่วันละ 1 แก้วก็พอ และถ้าไม่ใส่น้ำตาลเลยก็จะดีมาก

งดลูกอมทุกชนิด

ลูกอมทั้งที่ทานเล่น หรือที่ใช้ระงับกลิ่นปาก ล้วนมีแต่น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรทานบ่อย ๆ

     การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมเป็นกิจวัตรแบบนี้ ก็จะทำให้คุณมีรูปร่างดีไร้ไขมันส่วนเกินแล้วล่ะค่ะ แถมยังมีสุขภาพที่ดีอีกต่อหนึ่งด้วย..

guest

Post : 2012-01-16 10:35:58.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  10 ของกินเล่นที่ไร้คุณค่าทางอาหาร

 

10 ของกินเล่นที่ไร้คุณค่าทางอาหาร

 

 

คุณสาว ๆ โปรดทราบ อาหารว่างที่ควรเลี่ยงที่สุด (ไอเอ็นเอ็น)

ในประเทศอเมริกานั้น อาหารว่าง หรืออาหารทานเล่น ดูจะสร้างความวิตกกังวลมากขึ้นทุก ๆ ปี เพราะว่าส่วนประกอบของอาหารเหล่านี้นั้นส่วนมากจะเป็นพวกน้ำตาล สารเคมี สี และไขมัน เป็นส่วนใหญ่ และเป็นสาเหตุของโรคอ้วน และไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเอาซะเลย

มาดูกันดีกว่าว่า อาหารว่าง 10 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด ได้แก่อะไรบ้าง

เฟรนซ์ฟรายส์ (French Fries) เรา ๆ ท่าน ๆ นั้นอย่าเพิ่งมั่นใจกับสิ่งที่ร้านอาหาร บอกว่า มีการเปลี่ยนน้ำมันสำหรับทอดบ่อย ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ มันฝรั่งนั้นส่วนประกอบหลักเต็มไปด้วยแป้ง และเมื่อนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด และปรุงรสชาตินั้น อาจจะเป็นอาหารว่างที่อันตรายที่สุด

โดนัท (Donuts) โดนัทคือ ขนมปังที่นำไปทอด อาหารชนิดนี้ก็เต็มไปด้วยแป้ง และเมื่อนำไปทอดก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ามันฝรั่งทอดเลย

มันฝรั่งทอด (Chips) สิ่งนี่ก็คือมันฝรั่งทอดในรูปแบบอื่นที่แตกต่างออกไป ที่ถูกนำไปใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์นั่นเอง แต่เราสามารถที่จะควบคุมอันตรายจากอาหารประเภทนี้ได้ คือการนำไปอบแทนการทอด ซึ่งมันฝรั่งประเภทที่ใช้การอบแทนนั้น สามารถหาซื้อได้จากร้านอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ใช่อาหารที่ดี และควรรับประทานบ่อย ๆ อยู่ดี

โซดา (Soda) บางคนอาจจะสับสนกับการรวมสิ่งนี้เข้าไปเป็นกลุ่มอาหารด้วย สิ่งนี้ไม่เพียงไม่มีคุณค่าทางอาหาร ยังรวมไปถึงสารเคมีอีกมากมายที่ถูกบรรจุอยู่ในผลิตภัณฑ์อีกด้วย

คัพเค้ก (Cupcakes and Snack Cakes: whipped cream) เค้กที่มีไส้ครีมมันเยิ้ม และส่วนประกอบหลัก ๆ ก็มีแต่ แป้ง น้ำตาล และสารปรุงแต่งกลิ่น รส ซึ่งไม่มีคุณค่าอาหารเลย

ช็อกโกแลตสอดไส้ถั่ว (Candy Bars) กับเจ้าสิ่งนี้อาจจะยังพอมีคุณค่าทางอาหารให้เราอยู่บ้าง กับโปรตีนประมาณ 1-2 กรัม จากถั่วที่เป็นส่วนผสม แต่ว่าปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่นั้น ไม่สามารถนำมาทดแทนคุณประโยชน์ได้เลย เพราะความแตกต่างนั้นมีมากกว่ากันเยอะเลย แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในประเภทเดียวกันคือ energy bars ซึ่งมีปริมาณแคลอรี่น้อยกว่าถึง 1 ใน 3 มีโปรตีนมากกว่า และมีไขมันน้อยกว่าอีกด้วย แต่ยังไงก็มีคุณค่าสู้อาหารปกติไม่ได้อยู่ดี

เบคอน หรือแคบหมู (Pork Rinds) หรือแคบหมูทอดในบ้านเรานั่นเอง ซึ่งข้อนี้คงไม่ต้องบอก ใคร ๆ ก็คงทราบดีถึงสิ่งที่ได้รับจากเจ้าสิ่งนี้ว่ามีแต่ไขมันสัตว์

คุกกี้ไร้ไขมัน (Fat-Free Cookies) สินค้าเหล่านี้เป็นที่น่าสงสัยในแง่ของโภชนาการ เพราะว่าถ้าดูเพียงผิวเผินอาจจะดูเหมือนอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อาหารที่ปราศจากไขมัน ไม่ได้หมายความว่าจะปราศจากแคลอรี่ไปด้วย ดังนั้นสรุปก็คือ ไม่สมควรรับประทานอีกนั่นแหละ

แครกเกอร์ (Crackers)แครกเกอร์เต็มไปด้วยไขมันชนิด Trans ดังนั้นควรอ่านฉลากดูให้ดีก่อนซื้อ โดย Trans Fat หรือไขมันทรานส์ คือ ไขมันแบบ Polyunsaturated ที่วางขายตามท้องตลาด มีการเติมธาตุไฮโดรเจนสังเคราะห์ เพื่อให้มีสถานะแข็งที่อุณหภูมิห้อง ไขมันแบบนี้ มีคุณภาพต่ำ เพราะไปลดปริมาณ HDL และเพิ่มปริมาณ LDL ในเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจมากยิ่งขึ้น

เพรซเซล (Pretzels) อาหารกลุ่มนี้เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะเป็นอาหารที่ไม่มีไขมัน แต่ไม่มีไขมันไม่ได้หมายความว่าเป็นอาหารที่ดี เพราะเพรซเซลนั้นเต็มไปด้วยแป้ง และน้ำตาล ซึ่งแอบแฝงให้ดูเหมือนอาหารเพื่อสุขภาพ

 

guest

Post : 2012-01-04 15:45:26.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  การขัดผิวทำให้ผิวดีจริงหรือไม่

 

การขัดผิวทำให้ผิวดีจริงหรือไม่

 

 

      หลายคนสงสัยว่าการขัดผิวเพื่อ ลดหน้าท้อง นั้นมีคุณหรือโทษกันแน่   แต่ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ เรามาทำความเข้าใจเบื้องต้นกันหน่อยดีกว่า ว่าการขัดผิวนั้นหมายถึงอะไร การขัดผิว (Exfoliating) หมายถึง การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวหน้า รากศัพท์ของมันมาจากคำว่า “foliage” ซึ่งแปลว่าใบพืช  เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า อิพิเดอร์มิส (Epidermis) หรือผิวชั้นนอกเกิดขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการสร้างจนมาเติบโตเต็มที่อยู่บนชั้นบนสุดของผิวหนัง โดยเซลล์ที่อยู่ล้างสุดของชั้นนี้ที่เรียกว่า เซลล์แรกเริ่ม (Basal Cells) จะสร้างเซลล์ลูกซึ่งจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจนกลายเป็นผิวชั้นนอก เซลล์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างร่างกายเรากับสิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งยังช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นภายใน และป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ผิว

หลังจากเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่า อยู่ประจำที่บนชั้นผิวหนังแล้ว เซลล์ผิวเก่าก็จะหลุดลอกออกโดยธรรมชาติ หากยังตกค้างอยู่บนผิวก็จะทำให้ผิวดูไม่มีชีวิตชีวา และดูเป็นสะเก็ด การขัดหน้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการกำจัดเซลล์เก่าที่บดบังความสดใสนั่นเอง

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขัดผิวก็ได้แก่ ฟองน้ำขัดรูปแบบต่าง ๆ เช่น ใยบวบ หรือครีม เช่น เอเอชเอ แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถใช้ขัดผิวได้

การขัดผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื่นและใสกระจ่าง ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวด้วยวิธีรุนแรง และหากขัดมากเกินไปก็อาจรบกวนหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมของผิว รวมถึงทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้นจนเกิดความแห้งกร้าน ไหม้แดด หรือปัญหาผิวพรรณอื่น ๆ ได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม นอกจากการดูแลด้วยการขัดผิวแล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดีได้อีก คือ

- การทาครีมกันแดด และสวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดขึ้นจากแสงแดด

- เลิกสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยอันควร และทำให้ผิวเกิดคราบสีเหลืองประหลาดๆ

- เครียดให้น้อยลง ดังจะเห็นได้ว่าคนที่เครียดจะดูแก่กว่าคนที่สามารถควบคุมให้ตัวเองไม่เครียดได้

- การรู้จักพักผ่อน

- เลือกรับประทานอาหาร

- ออกกำลังกายให้เต็มที่ เป็นอีกวิธีฉลาด ๆ เพื่อคงความสวยให้ผิวของคุณและลดหน้าท้อง

guest

Post : 2012-01-03 14:01:26.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >   11 วิธี ใช้ข้าวของให้คุ้มค่า

 

11 วิธี ใช้ข้าวของให้คุ้มค่า

 

 

ยุคเงินเฟ้อ จะกินจะใช้ต้องรัดเข็มขัดจนเอวกิ่วด้วยครีมลดหน้าท้อง ข้าวของที่มีอยู่แล้วต้องใช้ให้คุ้มค่า ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายวันนี้เลยมีข้อแนะนำดีๆให้ลองนำไปปฏิบัติ

1.ลิปสติก  บางชนิดเนื้ออ่อนเหลวจนหักได้ง่าย ทั้งที่เพิ่งซื้อมาใช้ไม่นาน นำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยจุดเทียนไขลนเนื้อลิปสติกสองส่วนที่หักเข้าด้วยกัน ทิ้งให้เย็นตัวก็จะใช้ได้ใหม่

2.มาสคาร่า  ถ้าแห้งแล้วไม่ต้องรีบร้อนซื้อใหม่ ให้เติมน้ำร้อน 4-5 หยด แล้วใช้แปรงปัดขนตากวนๆ ให้ทั่วก็ใช้ได้อีกนาน

3.ยาทาเล็บ  ถ้าแห้งแข็งจนใช้ไม่ได้ อย่ารีบโยนทิ้ง เติมน้ำยาล้างเล็บลงไปหน่อย หรือแช่ขวดยาทาเล็บลงในน้ำเดือดสักครู่ ก็ใช้ได้อีกหลายครั้ง

4.เก็บรักษายาทาเล็บ  ทุกครั้งหลังที่เลิกใช้แล้ว ให้นำยาทาเล็บใส่ตู้เย็น เท่านี้ก็ใช้ยาทาเล็บได้หมดจนหยดสุดท้าย

5.เสื้อผ้าขึ้นรา  นำเสื้อไปแช่นมเปรี้ยว พอรุ่งเช้าบิดตากแดด อาจบีบมะนาวโรยซ้ำอีกนิด แค่นี้ก็ไม่ต้องทิ้งเสื้อตัวโปรดหรือซื้อใหม่ให้เสียเงิน

6.รองเท้า  ปรับรองเท้าคัชชูดำคู่เก่าให้ดูใหม่ได้ ด้วยการใช้ยาย้อมผมสีดำทาให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้สัก 1-2ชั่วโมง จากนั้นใช้ยาขัดรองเท้าขัดถูให้ดำเป็นเงางาม เท่านี้ก็เหมือนได้รองเท้าคู่ใหม่

7.เสื้อผ้าสีดำซีด  มีวิธียืดอายุการใช้งาน คือเมื่อซักสะอาดแล้วนำไปแช่ครามซักผ้าขาว ทิ้งไว้ 5-10 นาที นำไปล้างน้ำสะอาดแล้วตาก ชุดเก่าจะดูใหม่ไปอีกระยะ

8.ถุงน่อง  หลังซื้อมา อย่าเพิ่งใช้ทันทีให้ไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้น้ำซึมซับอิ่มตัว บิดหมาดๆ นำไปแช่ในช่องทำน้ำแข็งจนเป็นน้ำแข็ง แล้วนำออกมาละลายน้ำแข็งตากให้แห้ง จะใช้งานได้นานกว่าปกติ

9.ซักผ้า  หากผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ เพียงแค่นำสารส้มมาแกว่งในน้ำ แช่ผ้าที่เหม็นอับทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำมาซักปกติ แล้วตากแดดหรือตากลม

10.แก้ปัญหาผิวหน้ามันและลดหน้าท้อง  วิธีขจัดคือนำมะนาวมาฝานเป็นเสี้ยวบางๆ แล้วแปะให้ทั่วใบหน้า แต่เว้นรอบดวงตาและปาก ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างน้ำสะอาด ทำบ่อยๆ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ปัญหาหน้ามันจะทุเลาลง

11.เล็บเหลือง  แก้ปัญหาได้ด้วยการใช้มะนาวซีกเล็กๆ ขัดๆ ถูๆ เล็บมือสัก 5 นาที แล้วจึงนำมาล้างน้ำสะอาด เล็บมือจะขาวและเป็นเงางามจนน่าปลื้ม

 

guest

Post : 2011-12-28 12:16:58.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ห้องนั่งเล่น

 

ห้องนั่งเล่น

 

 

      จุดประสงค์หลักของห้องนั่งเล่นก็คือ การสร้างสังคมลดหน้าท้องระหว่างสมาชิกของผู้อยู่อาศัย การจัดแต่งห้องและเครื่องเรือนที่ใช้ ควรยึดหลักเกณฑ์ตามจุดประสงค์การใช้งาน และได้รับความเห็นชอบจากสมาชิก ความสนใจส่วนตัวของผู้ใช้ห้องนั่งเล่น เน้นกิจกรรมที่สมาชิกสามารถทำร่วมกันได้มากที่สุดและรวมถึงขนบธรรมเนียมความเชื่อของบรรพบุรุษที่พึงเคารพรักษาไว้เครื่องเรือนที่ใช้ในห้องควรเน้นที่ความสะดวกสบาย สามารถทำให้สมาชิกรู้สึกถึงความอบอุ่นและผ่อนคลายเมื่อได้เข้ามาใช้งาน ไม่ควรจัดให้มีลักษณะเป็นทางการมากเกินไป เน้นความเป็นกันเอง อาจตกแต่งห้องด้วยภาพถ่ายรวมหมู่ของสมาชิกในบ้านและบรรพบุรุษ ใบประกาศเกียรติคุณ ของที่ระลึกที่ได้มาจากสถานที่ที่เคยไปเที่ยวมา ผลงาน การแสดงฝีมือของสมาชิก ล้วนเหมาะที่จะนำมาแสดงไว้ในห้องนั่งเล่นทั้งสิ้นหากเกิดความขัดแย้งในครอบครัว ก็สามารถจัดแต่งห้องในรูปแบบใหม่ที่ทำให้รู้สึกสบาย สร้างความรู้สึกที่ดีๆระหว่างสมาชิกในครอบครัวการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้พิจารณาถึงความเป็นมาและความแตกต่างเฉพาะตัวของแต่ละคน การใช้วัตถุที่มีอยู่ในห้องแทนสัญลักษณ์ของความสุข ความสบายใจ เพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่างการสร้างความสุขส่วนตัวกับความสุขส่วนรวม

guest

Post : 2011-12-23 18:06:55.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ผลลัพธ์จากวิวัฒนาการของธรรมชาติ

 

ผลลัพธ์จากวิวัฒนาการของธรรมชาติ

 


     ผลลัพธ์จากวิวัฒนาการลดหน้าท้องของธรรมชาติมาเป็นเวลาหลายล้านปี ดังนั้นพันธุกรรมทางร่างกายมนุษย์จากบรรพบุรุษที่ปรับตัวให้เหมาะกับธรรมชาติตามกาลเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงจังหวะดนตรีของธรรมชาติ ร่างกายของมนุษย์เราในปัจจุบัน ไม่มีเวลาที่จะปรับตัวเข้าหาการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพื่อความอยู่รอดแล้ว มนุษย์จึงได้มีการนำเอาธรรมชาติกลับมาสู่สิ่งแวดล้อมของตัวเองเมื่อสัตว์ถูกย้ายออกจากถิ่นอาศัยของมันเอง พลังของมันก็จะลดลงเรื่อยๆ มันจึงต้องสร้างพันธุกรรมขึ้นมาเพื่อสนองตอบสิ่งแวดล้อมของตัวมันเองโดยเฉพาะ ร่างกายของมนุษย์นั้นถูกแยกออกมาจากลิ่งแวดล้อมในสมัยบรรพบุรุษ และแน่นอนว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความยุ่งยากในการใชีชวิตของมนุษย์ ถ้าหากว่าเราไม่นำเอาพลังแห่งธรรมชาติมาไว้ในสิ่งแวดล้อมของเราเองแล้ว มันไม่เพียงแต่เป็นการแย่งชิงความอุดมสมบูรณ์ของศิลปะความงดงามและทางด้านจิตใจแล้ว เรายังอยู่ในความเสี่ยงของสุขภาพอีกด้วยมีวิธีการกระตุ้นพลังธรรมชาติเพื่อนำมาสู่ชีวิตของมนุษยได้
แน่นอนว่า วิธีแรกคือ การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ มันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ทำได้กับทุกๆคน แต่เพียงช่วงเวลาสั้นที่ใช่ไปกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติสามารถยินยอมให้เซลล์ในร่างกายมนุษย์ซึมซับเอาพลังธรรมชาติ ดังวิธีการที่จะ กล่าวต่อไปนี้ เป็นการช่วยให้คุณดูดซึมเอาพลังการบำบัดในขณะที่ อยู่ในธรรมชาติคุณสามารถติดต่อให้ลึกลงไปในธรรมชาติคือ การนึกภาพว่าตนเองกำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ การที่วิธีนี้ใช้ได้ผล ก็เพราะว่ามีพื้นที่ในสมองส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าสิ่งที่คุณมองเห็นลดหน้าท้องเป็นเรื่องจริงและมีการตอบสนองทางกายภาพ

guest

Post : 2011-12-21 10:37:39.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  แต่งหน้าสวยให้เสร็จ

 

แต่งหน้าสวยให้เสร็จ

 

 

      ศิลปะการแต่งหน้าและการลดหน้าท้องมีมาช้านานแล้ว ชาวอียิปต์ใช้สีจากแร่ธาตุแต่งแต้มหน้าตาเพื่อบ่งบอกฐานะ ขณะที่ชาวกรีกจะทาสีทีหน้าเมื่อมีพิธีการพิเศษ มาจนถึงศตวรรษที่ 19 ใบหน้าที่ขาวผ่องจากการใช้สารบางชนิด เช่น เลดออกไซด์และไฮดรอกไซด์จัดเป็นความงามอย่างที่สุด นอกจากนี้ยังมีการใช้เมอร์คิวริกซัลไฟด์เพื่อทำให้ริมฝีปากมีสีแดง และถ้าผู้หญิงคนไหนต้องการให้ดวงตาเห็นประกายก็จะหยอดตาด้วยเบลลาดอนน่า แม้ในภายหลังจะทราบกันว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นอันตราย แต่ความอยากสวยกลับมีอิทธิพลเหนือกว่าเมื่อเรามองย้อนกลับไปยังสิ่งที่บรรพบุรุษได้กระทำเพื่อเสริมความงามให้กับตัวเอง เราอาจตื่นกลัวและพิศวง แต่หากเทียบกับเครื่องสำอางในปัจจุบัน สิ่งเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้รุนแรงเกินไปนัก เพราะส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ทุกวันนี้ล้วนเต็มไปด้วยพิษภัยทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นแป้งรองพื้น บลัชออน ดินสอเขียนขอบตา มาสคารา และลิปสติก ทั้งหมดนี้มีส่วนผสมของสารเคมีซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และเพิ่มปัญหาให้กับร่างกายเครี่องสำอางจะมีพิษภัยจากสารเคมีมากมาย แต่การที่จะให้เราเลิกแต่งหน้าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการแต่งหน้าเป็นเรื่องสนุก และเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นของผู้หญิงแต่สิ่งสำคัญคือเราควรจะเลือกเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ในอุตสาหกรรมความงามและลดหน้าท้องได้มีการพัฒนาเครื่องสำอางจาวแร่ธาตุธรรมชาติแล้วโดยใช้แร่ธาตุบริสุทธิ์ขนาดเล็กแทนสีจากเคมี

guest

Post : 2011-12-20 10:17:14.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  บริหารต้นขาด้านใน

 

บริหารต้นขาด้านใน

 

 

ลดหน้าท้องกล้ามเนื้อส่วนในสุดการบริหารขาที่เราจะพูดถึงก็คือ กล้ามเนื้อบริเวณด้นขาด้านในของเรานั่นเอง

1 นอนตะแคงเช่นเดียวกับการบริหารต้นขาด้านนอก โดยตะแคงด้านที่ถนัด ในที่นี้ขอเป็นตะแคงขวา

2 งอเข่าซ้ายมาด้านหน้า โดยให้วางเข่าซ้ายบนพื้นที่ยกสูงหรือว่าหมอน

3 เหยียดขาขวาให้ตรง แล้วยกขึ้นสูงจากพื้น

4 ทำสลับกันรวมประมาณ 30-45 ครั้ง โดยให้แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ 10-15 ครั้ง แล้วพักประมาณ 20 วินาที ทำต่ออีก 10-15 ครั้ง ทำจนครบ3 ช่วง

처음 이전 1 | 2 | 3 다음 끝

เทคโนโลยีสมุนไพร เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรัก

ขอขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ และ สมาชิกทุกท่านค่ะ