สวัสดีคะ พอดีเพิ่งสั่งซื้อsylph ไป ชื่อเจนนะคะ ปัจจุบันเป็นคนธาตุหนักมากกกกกกก มากๆๆๆๆ คือต้องกินยาถ่าย dulcolax ทุกวันก่อนนอน ไม่กินก็ไม่ถ่ายค่ะ เลยจึงถามว่า ถ้ากินslyphพร้อมกับยาระบายควบคู่กันจะมีผลข้างเคียงอะไรไหมคะ มันจะทำให้ระบบการทำงานของตัวslyphเสื่อมลงหรือไม่ทำงานไหมคะ ขอบคุณคะ 

ยาลดน้ำหนักกลุ่มใหม่

ยาชนิดนี้จะทำให้ผู้ทานรู้สึกอิ่ม อาหารไม่อร่อย มีฤทธิ์อ่อนแต่ผลข้างเคียงน้อยกว่า

ต้องบังคับตัวเองมากหน่อย ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการปรับตัวในระยะยาว

ยาหลายชนิด อย.ไม่รับรอง จึงไม่ควรซื้อมาทานเอง

ลดน้ำหนักเร่งด่วน

 ในปัจจุบันมีคนสนใจลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งวิธีลดน้ำหนักของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป

บางคนเลือกที่จะออกกำลังกายหรือเข้าฟิตเนส แต่บางคนก็เลือกที่จะทานยาลดหน้ำหนักแทน เช่น

- ยาลดน้าหนักกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ ( Phentermine )

กลุ่มยาชนิดนี้จะออกฤทธิ์โดยการกดความรู้สึกอยากอาหาร ฤทธิ์แรงดี ลดน้ำหนักง่าย

แต่ผู้เริ่มใช้ยาใหม่ ๆ มักใจสั่น นอนไม่หลับ เครียดและหงุดหงิดง่าย

ต้องปรับตัวสักระยะให้คุ้นเคย ควรรับประทานสัก 3 เดือน และคอยสลับเป็นยาอื่นบ้าง

น้ำฟักเขียว

ประโยชน์  แก้ไข้

               แก้กระหายน้ำ

                บำรุงผิวพรรณ

เตรียม     ฟักเขียว 1 ลูก

               น้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ

                น้ำ   1/2  หม้อ

วิธีทำ    เฉือนเปลือกฟักเขียวออก ล้างน้ำ

             หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มกับน้ำ

              เติมน้ำตาลเมื่อน้ำเดือด แล้วต้มต่ออีกสักครู่ จากนั้นก็ยกลง

              ตักน้ำฟักเขียวใส่ถ้วย

ประโยชน์ของอาหารที่มีกาก

   อาหารที่มีกาก ได้แก่ ถั่วต่าง ๆ ข้าวที่ไม่ได้สีและผลไม้

รำข้าวเพียงเล็กน้อยที่ผสมเข้าไปในอาหารประจำวัน

จะทำให้เรามีระบบขับถ่ายที่ดีขึ้นหรือถ้าจะนำอาหารประเภทกากใย

มาเสริมอาหารที่ดัดแปลงแล้วก็มีผลเช่นเดียวกัน

เคล็ดลับผิวสุขภาพดี

การที่เราจะมีผิวที่สุขภาพดีได้นั้น  เราควรจะนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยก็ 6 ชั่วโมงต่อวัน  รวมทั้งควรรับประทานอาหารทีมีวิตามินซีและธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะอยู่ในผัก ผลไม้และในปลาตัวเล็ก  เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยบำรุงผิวพรรณของเราให้ชุ่มชื่นเปล่งปลั่งได้เป็น  อย่างดี

น้ำชมพู่

ประโยชน์       ช่วยลดน้ำหนัก 

                      แก้กระหายน้ำ

ส่วนผสม         ชมพู่  3-4 ผล      น้ำผึ้ง  1 ช้อนโต๊ะ   น้ำต้มสุก 1/2 แก้ว

                     เกลือ 1 ช้อนชา    น้ำแข็งบด 1/2 แก้ว

วิธีทำ   ล้างชมพู่ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

           ใส่เครื่องปั่นพร้อมกับน้ำต้มสุก น้ำผึ้ง เกลือ น้ำแข็งบด

           ปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

ทราบว่า rose hip สามารถใช้ทาหน้าได้ ไม่ทราบว่ามีประโยชน์ยังไงบ้าง ใช้ยังไง และปริมาณการใช้แต่ละครั้งเท่าไหร่คะ สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายจะเกิด effect มั้ยคะ (ขอบคุณค่ะ)

DETOX  ลำไส้

ส่วนผสม                   - โยเกิต รสธรรมชาติ                       ครึ่งถ้วย

                             - นมสด  รสจืด                                1  กล่อง         

                             - น้ำผึ้งแท้                                      1 ช้อน

                               - มะนาว                                       1 ลูก

  วิธีทำ            นำส่วนผสมทุกอย่างผสมรวมกัน แล้วก็ดื่มได้เลยคะ 

 คำเืตือน         ควรดื่มก่อนอาหารเช้าเท่านั่น

                             เมื่อบีบมะนาวลงไปแล้วควรดื่มทันที

โทษของไขมัน

1. นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม

2.เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

3. ทำให้ความจำเราลดลง  เนื่องจากไตเสื่อม

4.อาหารที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมัน เนื่องจากม้ามชื้น

ทานแล้วและเลิกทานจะกลับมาอ้วนอีกไหนคะ

สวัสดีค่ะ คุณลุ้ย

            อ่านสรรพคุณของ rosehip แล้วสนใจอยากทานค่ะ เพราะเป็นภูมิแพ้มานานหลายปีมาก (ทำงานโรงพยาบาลค่ะ หมอสั่งยาให้ทานประจำแต่ไม่ดีขึ้น)  อยากถามคุณลุ้ยว่าจะสามารถทานคู่กับ Slyph ได้มั้ยคะ แล้วจะมี side effect หรือเปล่า (เป็นโรคเลือดด้วยค่ะ)

                                               ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

เพิ่งเริ่มทาน sylph มาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ทานก่อนนอนวันละ 2 เม็ด รู้สึกว่าถ่าย (..) ทุกเช้า (ปกติเป็นคนท้องผูกประจำ) ไม่ทราบว่าเป็นผลของยาหรือเปล่าคะ

มีแผลเป็นไม่ต้องกลัว มียาป้องกันแล้ว

วารสารการแพทย์ แลนเซต ชื่อดังของอังกฤษรายงานว่า นักวิจัยได้ประสบความก้าวหน้า ครั้งใหญ่ ผลิตยาใช้รักษาบาดแผลผ่าตัดหรือจากการบาดเจ็บ ไม่ให้เป็นแผลเป็นได้


ในการทดลองยาที่มีชื่อว่าอโวเทอมิน เพื่อดู ความปลอดภัยในการใช้ยาและหาปริมาณที่พอเหมาะกับอาสาสมัครผู้ซึ่งแข็งแรงดี และได้คอยติดตามดูผลการรักษามาตลอดเวลา 1 ปี ปรากฏว่าบาดแผลของผู้ที่ได้ยาค่อยแดงน้อยลง มองเห็นได้ว่าแผลตื้นขึ้นมากกว่าของผู้ที่ใช้ยาหลอก ซึ่งเปรียบเทียบกันดู อาสาสมัครเหล่านี้ จะต้องโดนถูกผ่าตัดให้ เป็นแผลลึกผ่านผิวหนังลงไปถึงกล้ามเนื้อข้างใต้ ที่แขนทั้งสองข้าง ให้มีขนาดโต 1 ซม.

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แผลเป็นเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในร่างกายของเราเอง ซึ่งเป็นเจ้ากี้เจ้าการกับแผล โปะผิวหนังเพื่อประสานแผลมากเกินไป นอกจากนั้นแต่ละคน ยังเกิดแผลเป็นร้ายแรงไม่เท่ากันด้วย

หมดกังวลปัญหาใต้วงแขน

     หนุ่มสาวส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองนั้นมีกลิ่นตัว หากรู้คงไม่มีหนุ่มสาวคนไหนคิดอยากจะเดินโชยกลิ่นให้คนอื่นรังเกียจ แต่เพราะจมูกเคยชินกับกลิ่นที่อยู่กับตัวเองมานาน ประกอบกับฮอร์โมนที่เริ่มทำงานส่งกลิ่นตัวมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น และเรื่องกลิ่นตัวนี่แหละ หากไม่สนิทกันจริง ก็คงไม่มีใครกล้าบอก กล้าเตือนให้รู้ตัว ภก. ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ และ อาวียองซ์ อะคาเดมี มีข้อมูลเด็ดๆ ที่จะมาช่วยแก้ไขคลายความกังวลปัญหาใต้วงแขน ที่จะมาคลาเสน่ห์ในตัวคุณให้ลดลง

ภก. ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ และ อาวียองซ์ อะคาเดมี เผยว่า “มีเว็บไซต์แห่งหนึ่งในอังกฤษได้ตั้งคำถามสำรวจเมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า “อะไรที่ทำให้คู่รักโรแมนติกเสียอารมณ์ได้มากที่สุด” ผลปรากฎ “กลิ่นตัว” เป็นปัญหาที่น่ารังเกียจที่สุด แซงหน้าปัญหาเรื่องกลิ่นปาก ขนจมูกยาว และปัญหาบุคลิกภาพอื่นๆ ซึ่งประเด็นหลักที่สร้างปัญหากลิ่นตัว คือ ต่อมเหงื่อบริเวณใต้วงแขน หรือรักแร้ เมื่อรักแร้มีเหงื่อออก จะมีเชื้อแบคทีเรียมากินสารอาหารในเหงื่อ และขับถ่ายของเสียออกมาเป็นกลิ่นตัว โดยกลิ่นของแต่ละคนนั้นก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม เชื้อชาติ และอาหารที่รับประทาน และหนุ่มๆ  เป็นเพศที่ชอบทำกิจกรรมและมีการหลั่งเหงื่อมากกว่า จึงเสี่ยงต่อการมีกลิ่นตัว แต่หนุ่มบางคนอาจไม่ได้มีกลิ่นตัวแรง  แต่กลับมีต่อมเหงื่อทำงานมาก ก็จะมี “เหงื่อออกมากใต้วงแขน” ทำให้เสื้อผ้าบริเวณใต้รักแร้นั้นเปียกโชกเสียบุคลิกภาพ แต่สาวๆ ก็ใช่ว่าจะไม่ประสบกับปัญหากลิ่นตัว รวมถึงสาวๆ ที่ชอบโกน ชอบถอน ขนรักแร้ เมื่อทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน โครงสร้างผิวก็จะเสีย ก่อให้เกิดปัญหา “ผิวไม่เรียบเนียน ดูคล้ายหนังไก่” และเมื่อไม่มีขนรักแร้ ยิ่งทำให้ผิวใต้วงแขนเสียดสีกันมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหา “รักแร้ดำ” จึงเป็นปัญหาที่สาวๆ หลายคนขาดความมั่นใจ ไม่กล้าใส่เสื้อแขนกุดหรือสายเดี่ยว


ดังนั้นหากต้องการความมั่นใจ ควรเลือกโรลออนที่ช่วยลดเหงื่อและระงับกลิ่นกาย โดย เลือกปกป้องได้ครอบคลุม เพราะปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย บางชนิดเน้นเพียงแค่ลดเหงื่อ (Anti-perspirant) โดยใส่สารลดการหลั่งเหงื่อ และอาจผสมน้ำหอมบ้าง แต่ไม่เน้นระงับกลิ่น ในขณะที่บางชนิดเน้นระงับกลิ่น (Deodorant) แต่ไม่ได้ลดเหงื่ออย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากต้องการความมั่นใจอย่างเต็มที่     ใต้วงแขนแห้งสบาย ไร้เหงื่อโชก  หมดปัญหากลิ่นตัว   ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพทั้งลดเหงื่อและระงับกลิ่นกายในขวดเดียว (Anti-perspirant Deodorant) มากกว่าเลือกที่กลิ่นหอมถูกใจ


พร้อม เลือกประโยชน์อื่นๆ ที่โดนใจ เช่น มีส่วนผสมไวท์เทนนิ่ง (Whitening) เพื่อดูแลแก้ปัญหารักแร้ดำ มีส่วนผสมคอลลาเจน (Collagen) เพื่อช่วยลดปัญหารักแร้ไม่เรียบเนียน เป็นหนังไก่ ให้ผิวใต้วงแขนกระชับ เนียนเรียบขึ้น และเลือกกลิ่นหอมสดชื่นแนวดอกไม้ซึ่งเหมาะสำหรับผู้หญิง หรือแนวสปอร์ตดี้ที่เหมาะสำหรับผู้ชาย อย่างผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อพร้อมระงับกลิ่นกาย อาวียองซ์ คอนฟิเดนซ์ (aviance Confidens)  เป็นต้น

เมื่อศึกษาคุณสมบัติต่างๆ นานาอย่างครบถ้วนแล้ว สุดท้าย ทดลองก่อนซื้อ โดยทาบนท้องแขน 1-2 ครั้ง แล้วทิ้งไว้สักครู่ ควรเลือกชนิดที่ทาแล้วแห้งไว เกิดฟิล์มบางๆ เคลือบผิว โดยไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ จากนั้นลองเอานิ้วถูวนดู หากเกิดเป็นคราบขาวขึ้นมา แสดงว่าโรลออนนั้นไม่ติดผิว และเสี่ยงต่อการเลอะเสื้อผ้าให้เสียหายเป็นรอยด่างได้”


ไม่ว่าวันนี้คุณจะแน่ใจหรือไม่ว่าคุณมีกลิ่นตัวหรือเปล่า ทางที่ดีลองเลือกโรลออนลดเหงื่อและระงับกลิ่นกายสักขวด มาประกันความมั่นใจก็น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

ทาน กะหล่ำปลี ดิบอาจมีพิษ

กะกล่ำปลี ที่นำมาประกอบอาหาร หากนำมาทานดิบ ๆ อาจได้รับสารพิษได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...

ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen) ซึ่งเป็นสารที่จะกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน สร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน (Thyroscine) ซึ่งผลที่เกิดขึ้น คือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก

แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ ด้วยการต้ม ดังนั้นจึงควรหันมารับประทานกะหล่ำปลีสุก จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัย

7 เรื่องนักไดเอทไม่ควรไว้ใจ

คนที่คิดว่าไว้ใจได้ บางครั้งยังมีการแทงข้างหลัง นับประสาอะไรกับเจ้าแผนไดเอทเหล่านี้

    1. ไม่ดื่มน้ำ น้ำหนักไม่ขึ้น

          ไม่รู้มีใครป้อนโปรแกรมเข้าสมองสาวๆ นะ ว่าน้ำหนักตัวส่วนหนึ่งมาจากน้ำ ถ้าไม่ดื่มน้ำน้ำหนักก็ไม่เพิ่ม ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วถ้าขาดน้ำ ร่างกายเราจะหิวจัดจนเบลอ คลื่นไส้ อารมณ์เสีย มีความยับยั้งชั่งใจต่ำ พอเห็นของกินเลยโซ้ยลืมโลก คนที่มองข้ามความสำคัญของน้ำเปล่า จึงอ้วนง่ายมาก วิธีที่ดีที่สุดคือ ดื่มน้ำทันทีที่ตื่นนอน 1 แก้ว ดื่มอีกแก้วระห่วางมื้ออาหาร จิบไปเรื่อยๆ ระหว่างทำงาน และดื่มอีกหนึ่งแก้วเต็มๆ ก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง

    2. ดื่มน้ำผลไม้

         เอาเข้าจริงน้ำผลไม้ที่ขายกันทุกวันนี้ไม่มีไฟเบอร์เหลืออยู่เลย แต่มีน้ำตาลเพียบทั้งจากตัวผลไม้เอง และจากน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งที่แม่ค้าเขาใส่ลงไปแต่งรสให้อร่อยเหาะถูกใจคนกิน (แถมบางร้านยังไม่ยอมล้างผลไม้อีก) ดื่มน้ำผลไม้แก้วหนึ่งจึงเท่ากับเพิ่มความอ้วนให้ตัวเองอีกหลายขีด นอกจากนี้เวลาที่เราดื่มน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงๆ เข้าไป ระดับน้ำตาลในเลือดจะพุ่งขึ้นทันที ทำให้คุณอิ่มเร็ว แต่ไม่นานพอร่างกายใช้น้ำตาลในเลือดหมดแล้ว ระดับน้ำตาลก็จะลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เราหิวจนตาลาย ทีนี้ข้าวจานเดียวก็เอาไม่อยู่

    3. ไว้ใจทุกอย่างที่เป็นปลา

         ปลาอาจจะมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยสลายไขมันสะสม แต่ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสาวๆ กำลังไดเอท เพราะอาหารที่ทำจากปลามักจะหนีไม่พ้นการทอดหรืออบเนย ถ้าเป็นเบอร์เกอร์ปลาก็ไส่มายองเนสจนชุ่ม ก่อนจะทานปลาจึงต้องไม่ลืมคิดหาปริมาณแคลอรีด้วย เพราะปลาบางจานอาจจะแคลอรีสูงกว่าไก่ย่างรสแซบด้วยซ้ำไป

    4. อาหารไขมันต่ำคือเพื่อนแท้

           อาหารไขมันต่ำส่วนใหญ่รสชาติจะจืดมากถึงมากที่สุด ผู้ผลิตเขาก็เลยต้องอุดรูรั่วด้วยการกระหน่ำเติมน้ำตาลลงไ ทำให้คนกินอย่างเราได้รับแคลอรีที่ไม่ต้องการเพิ่มมาอีกเพียบ ถ้าคิดถจฝากความหวังไว้กับอาหารไขมันต่ำ จึงควรอ่านฉลากทุกครั้ง เพื่อเช็คปริมาณน้ำตาลและแคลอรีด้วย

    5. ไว้ใจอาหารจานผัก

          คำว่าผักอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้อาหารจานนั้นเป็นอาหารแคลอรีต่ำ เพราะอาหารผักๆ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมน้ำมันท่วมจาน อย่างผัดผัก สลัดผักน้ำข้น กินแล้วความอ้วนก็ยังอยู่เหมือนเดิม ถ้าอยากจะทานผัก คุณจึงควรเข้าครัวปรุงเอง หรือไม่ก็กำชับพ่อครัวให้ใส่น้ำมันให้น้อยที่สุด ส่วนสลัดน้ำข้นแคลอรีเพียบนั้น ขอให้ลืมไปได้เลยจะดีมาก

    6. เป้าหมายสุดขอบฟ้า

         ก่อนจะตั้งเป้าลดน้ำหนัก ควรจะมองโลกในความป็นจริงก่อนว่า คุณทนทำโปรแกรมลดน้ำหนักแบบบหฤโหดได้หรือเปล่า บางคนตั้งเป้าว่าจะลดน้ำหนักอาทิตย์ละ 5 กิโล ซึ่งอาจจะทำได้ในอาทิตย์แรก แต่อาทิตย์ที่สองนอกจากจะไม่ไหวแล้ว ยังกลับมากินหนักกว่าเดิม เรื่องอ้วนกว่าเก่าจึงไม่ต้องพูดถึง

    7. บอกลาของหวาน

         ถึงของหวานจะทำให้อ้วน แต่การงดกินของหวานไปเลยก็ยังไม่ใช่วิธีที่ถูกอยู่ดี เพราะมันจะทำให้ทั้งร่างกายและหัวใจคุณเรียกร้อง เมื่อไรที่คุณได้หยิบขนมหวานๆ เข้าปากแค่เพียงชิ้นเดียว คุณจะลืมสิ้นทุกอย่าง คนที่คิดจะตัดญาติขาดมิตรกับของหวานจึงต้องแน่ใจก่อนว่าจะไม่กินได้จริงๆ แต่ถ้ายังทำไม่ได้ขนาดนั้น กูรูเขาบอกว่าให้กินขนมหวานชิ้นเล็กๆ วันละชิ้น ร่างกายจะได้ไม่โหยหาน้ำตาลมากเกินไป

 

เคล็ดลับ 3 วิธี ที่ทำให้บั้นท้ายงาม

อย่าคิดว่านี่เป็นแค่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้น แต่นี่เป็นเรื่องสำหรับทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย เพราะไม่ว่าจะเป็นเธอหรือเขา ต่างก็ชอบแอบมองบั้นท้ายที่เนื้อแน่นของคุณอยู่เช่นกัน  เราจึงมีวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มความกระชับให้กับบั้นท้าย ในระหว่างการใช้ชีวิตปกติของคุณในแต่ละวัน

          1. ให้ตั้งลำตัวตรงด้วยเข่าทั้งสองข้าง วางแขนสองข้างปล่อยสบายอยู่ข้างลำตัว ปลายนิ้วแตะไว้ที่ต้นขา

          2. หายใจเข้าให้ลึก ค่อยๆ เอนตัวไปด้านหลัง ให้รักษาตำแหน่งของหลัง ลำตัวและต้นขาทั้งสองข้างให้เหยียดเป็นแนวเส้นตรง พยายามเกร็งกล้ามเนื้อตั้งแต่ช่วงต้นขาไปจนถึงกล้ามเนื้อก้นให้ตึงเท่าที่จะ ทำได้ ยิ่งสามารถทำ ให้ตึงมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เอนลำตัวไปด้านหลังได้มากยิ่งขึ้นตามที่ต้องการ

          3. หยุดค้างไว้ 5 – 10 วินาที แล้วปล่อยลมหายใจออกและเอนตัวขึ้นมาเพื่อยิ่งขึ้นกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น เริ่มจากวันละ 5 ครั้งในสัปดาห์แรก แล้วเพิ่มเป็นวันละ 10 ครั้งในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 หลังจากนั้นค่อยเพิ่มเป็นวันละ 15 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ 4 และ 5 ก็จะทำสามารถสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของบั้นท้ายที่จะกระชับ

ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ

ทราบหรือไม่ว่า การรับประทานน้ำตาลเยอะ ๆ จะทำให้เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน แล้ว แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย วันนี้เกร็ดความรู้มีมาฝากกัน...


รับประทานน้ำตาล Fructose มากเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่พบบ่อยทั้งประเทศที่เจริญแล้วหรือประเทศที่กำลังพัฒนา หลายประเทศได้มาตราการป้องกันโดยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก หลายประเทศก็ทำวิจัยหาสาเหตุและวิธีป้องกัน Dr.Peter J. Havel, DVM, PhD ซึ่งเป็นนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย California ได้ทำการวิจัยเรื่องผลของน้ำตาล Fructose ต่อความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและได้ตีพิมพ์ใน American Diabetes Association 67th Scientific Sessions: Abstract 0062-OR. Presented June 23, 2007.

นักวิจัยพบว่า

อัตราการใช้น้ำตาล Fructose (น้ำตาลที่ได้จากผลไม้) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 135 จากปี1997-2001 จึงได้ศึกษาประชาชน 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับน้ำตาล Fructose อีกกลุ่มหนึ่งได้รับน้ำตาล Glucose หลังจากนั้น 8 สัปดาห์จึงนัดผู้ป่วยมาเจาะเลือดเพื่อเปรียบเทียบพบว่าระดับไขมัน Triglyceride ในผู้ป่วยที่ได้รับ Fructose เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 200 ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับน้ำตาล Glucose ระดับไขมันลดลงร้อยละ 30

นักวิจัยเชื่อว่า

น้ำตาล Fructose เมื่อผ่านกระบวนการที่ตับแล้วจะเข้าสู่กระบวนการที่สร้างไขมันชนิดที่ไม่ดีมากว่าน้ำตาล Glucose


แนะนำว่า

ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน ความดันโลหิต หรือไขมันในเลือดสูงควรเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล Fructose เป็นส่วนประกอบ สำหรับผลไม้มีปริมาณน้ำตาล Fructose ต่ำกว่าในเครื่องดื่มมาก ก็ไม่ต้องกังวลและในผลไม้ยังมีสารอาหารอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

เชอร์รี่ ผลไม้เพิ่มความสุข

สาวๆ รู้หรือไม่ว่า เชอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีมากกว่าส้มถึง 30-80 เท่านั้น

นอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส ชะลอความแก่ และช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว เชอร์รี่ยังมีคุณสมบัติช่วยให้สาวๆ ทั้งหลายอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย

     จากผลงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าการกินเชอร์รี่มากถึง 20 ผลจะช่วยลดอาการซึมเศร้าได้มากกว่าการกินยา เนื่องจากในผลเชอร์รี่มีสารที่ชื่อว่า แอนโธไซยานิน(Anthocyanin) ซึ่งเป็นเม็ดสีในเชอร์รี่ ทำให้ผลไม้ชนิดนี้มีสีสันสดใส และมีสรรพคุณที่สำคัญคือ ทำให้คนกินมีความสุข

ด้วยเหตุนี้แพทย์ตะวันตกจึงเรียกเชอร์รี่ว่าเป็น แอสไพรินธรรมชาติถ้าเวลาใดที่สาวๆ รู้สึกเครียดหรือเกิดอาการซึมเศร้าก็ลองเปลี่ยนจากการกินยารักษา มาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดด้วยการกินเชอร์รี่นะคะ